Input Unit
คีย์บอร์ด [Keyboard]
Keyboard คืออุปกรณ์แป้นพิมพ์ที่ใช้ป้อนข้อมูลเข้าไปในคอมพิวเตอร์ มีปุ่มเหมือนกับเครื่องพิมพ์ดีด เป็นอุปกรณ์ที่มีในเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง จำนวนปุ่ม 101 ปุ่มขึ้นไป
- คีย์บอร์ดมีอยู่ 5 ประเภท ดังนี้
1. Desktop keyboard เป็นคีย์บอร์ดมาตรฐานแบบ 101 ปุ่ม
2. Desktop keyboard with hot key เป็นคีย์บอร์ดที่มีปุ่มพิเศษเพิ่มเข้ามามากกว่าแบบมาตรฐาน
3. Wireless keyboard เป็นคีย์บอร์ดไร้สายเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านทางการเชื่อมต่อไร้สาย
4. Security keyboard เป็นคีย์บอร์ดที่มีระบบรักษาความปลอดภัย
5. Notebook keyboard เป็นคีย์บอร์ดขนาดเล็กและบาง
นอกเหนือจากแป้นปกติแล้วยังมีแป้นพิเศษที่มักจะอยู่แถวบนสุดของคีย์บอร์ด จะเป็นพวกปุ่ม F1-F12 หรือคีย์บอร์ดบางรุ่นจะมีปุ่มปรังเสียง ปุ่ม Play ปุ่ม Stop ให้เราใช้งานเพิ่มความสะดวกเพิ่มเข้ามาอีกด้วย ส่วนทางขวาของคีย์บอร์ดรุ่นใหญ่ ๆ จะมีปุ่มตัวเลข 0 - 9 แยกออกมาต่างหากเพื่อความสะดวกในการพิมพ์ตัวเลข
นอกจากนี้แล้วยังมีปุ่มที่ใช้กับโปรแกรมท่องเว็บ Browser ต่าง ๆ ด้วยเช่นปุ่ม Home ,End ,Page Up ,Page Down และปุ่มลูกศร บน ล่าง ขวา ซ้าย สามารถใช้แป้นเหล่านี้ในการควรคุมการเลื่อนหน้าเว็บได้ แทนการใช้เมาส์เพื่อเพิ่มความสะดวกในบางกรณี
ส่วนประกอบของแป้นพิมพ์ มาตรฐานแบบ 104 คีย์ แบ่งแป้นกดหรือคีย์ออกเป็น 5 กลุ่มด้วยกัน คือ
1. กลุ่มแป้นอักขระพิมพ์ดีด เป็นแป้นกดหรือคีย์ที่ใช้สำหรับพิมพ์ตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมายวรรคตอนและสัญลักษณ์พิเศษ การวางตำแหน่งของแป้นตัวอักขระพิมพ์ดีด จะวางตามแบบมาตรฐานQWERTY เช่นเดียวกับแป้นกดบนเครื่องพิมพ์ดีดทั่วไป ซึ่งได้แก่ แป้นอักษร A-Z แป้นเครื่องหมายวรรคตอน แป้นสัญลักษณ์ แป้น <Shift>แป้น <Caps Lock> แป้น <Tab> แป้น <Enter> แป้น <Backspace> ฯลฯ
2. กลุ่มแป้นควบคุม คือแป้นกดที่ใช้ควบคุมการทำงานของโปรแกรม (Software) ที่ใช้งานอยู่ในขณะนั้น แป้นควบคุมที่มีใช้งานบนแป้นพิมพ์แบบมาตรฐานโดยทั่วไปนั้นมีดังต่อไปนี้
3. กลุ่มแป้นกำหนดการทำงานพิเศษ เป็นแป้นที่กำหนดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้มีรูปแบบการทำงานตามที่ผู้เขียนโปรแกรมกำหนด แป้นพิมพ์แบบ 104 คีย์ จะมีแป้นกำหนดการทำงานพิเศษ (Function Keys) จำนวน12 คีย์ ได้แก่ F1, F2, ….F12
4. กลุ่มแป้นเลื่อนตำแหน่งของเคอร์เซอร์ จะมีแป้นลูกศร 4 อัน เพื่อใช้เลื่อนตำแหน่งของเคอร์เซอร์หรือตัวบอกตำแหน่งการพิมพ์5. กลุ่มแป้นเฉพาะตัวเลข (Numeric Keypad) เป็นกลุ่มของคีย์ (Keys) ที่อยู่ทางด้านขวาของแป้นพิมพ์ ซึ่งบรรจุตัวเลข 0 ถึง 9 และจุดทศนิยม
-ผังของแป้นพิมพ์
1. แป้น <ESC> ใช้ยกเลิกงานที่กำลังทำอยู่ในขณะนั้น เช่น ออกจากคำสั่ง เมนู ไดอะล็อกบ็อกซ์หรือโปรแกรม
2. แป้น <Caps Lock> และแป้น <Shift> เป็นแป้นที่ใช้พิมพ์ตัวอักษรชุดที่สองของแป้นอักษรนั้นเหมือนกับการยกแคร่ในเครื่องพิมพ์ดีด
3. แป้น <Num Lock> เป็นแป้นที่ใช้เป็นสวิตซ์ (Switches) การทำงานของแป้นเฉพาะตัวเลข (Numeric Keypad)
4. แป้น <Spacebar> หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “คานเว้นวรรค” ใช้สำหรับกำหนดช่องว่างระหว่างตัวอักษรหรือเว้นวรรคตัวอักษร
5. แป้น <Delete> เป็นแป้นที่ใช้ลบตัวขระที่อยู่ทางด้านขวาของเคอร์เซอร์ (Cursor)
6. แป้น <Backspace> มีหน้าที่ใช้ลบตัวอักขระที่อยู่ทางด้านซ้ายของเคอร์เซอร์ (Cursor)
7. แป้น <Ctrl> และแป้น <Alt> เป็นแป้นพิเศษที่ใช้ร่วมกับแป้นอักษรอื่นเพื่อเรียกใช้คำสั่งลัด
8. แป้น <Enter> เป็นแป้นที่สามารถบอกให้เครื่องคอมพิวเตอร์รับเอาข้อมูลและงานต่างๆ ของเราเข้าไปประมวลผลในหน่วยประมวลผลกลาง หรือในโปรแกรม Microsoft Word จะเป็นการเพิ่มบรรทัดใหม่หรือขึ้นย่อหน้าใหม่
9. แป้น <Arrow> มีหน้าที่ใช้สำหรับเลื่อนตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) ไปยังตำแหน่งต่างๆ บนหน้าจอ
10. แป้น <Function> เป็นแป้นที่ใช้กำหนดหน้าที่การทำงาน
11. แป้น <Windows> เป็นแป้นวินโดวส์ใช้สำหรับเปิดหรือเรียกใช้งานเมนู Start
12. แป้น <Application> เป็นแป้นที่ใช้สำหรับเรียกคำสั่งลัด (Shortcut Menu) ในโปรแกรมระบบปฏิบัติวินโดวส์ (Windows) ขึ้นมาใช้งานอย่างรวดเร็ว
13. ปุ่ม Programmable แป้นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันจะมีปุ่มProgrammable Buttons เพื่อให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เรียกใช้งานหรือคำสั่งตามโปรแกรมที่ระบุไว้บนปุ่มโดยตรงและรวดเร็ว
รหัสแอสกี (ASCII) เป็นเป็นรหัสที่กำหนดขึ้นโดยหน่วยงานกำหนดมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา ย่อมาจาก American Standard Code for Information Interchange เป็นรหัส 8 บิต ใช้แทนสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้ 256ตัว นิยม ใช้กันแพร่หลายกับระบบคอมพิวเตอร์ทั่วไปและระบบสื่อสารข้อมูล
ข้อมูล
ประเภทของเมาส์
Mouse
Mouse เป็น อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลอย่างหนึ่งแต่ที่เห็นการทำงาน โดยทั่วไปจะเป็นตัวที่ใช้ควบคุมลูกศรให้เคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งต่างๆ บนจอภาพ เหมาะสำหรับใช้งานเมื่อต้องเลือก หรือเลื่อนวัตถุต่างๆ บนจอ Mouse ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้ 2 แบบ ได้แก่ 9 Pin, Serial Port และ PS/2(Personal System Version2)
เมาส์คอมพิวเตอร์อันแรกในโลก
* ผู้คิดค้นประประิดิษฐ์ คือ Douglas Engelbart ในปี 1964 เป็นครั้งแรกในโลก
* การจับการเคลื่อนไหวใช้ เฟื่องล้อ 2 อัน ตั้งในตำแหน่งที่ตั้งฉากกัน ( ไม่ได้เป็นลูกบอลกลม เหมือนเมาส์ที่เราท่านๆ เคยใช้กัน )
* ตัวเมาส์ ปุ่มกด ทำจากไม้
* ระบบจับการเคลื่อนไหว ใช้เฟื่อง 2 อันวางตั้งฉากกัน ( ซึ่งทำให้ไม่สามารถลากเมาส์แบบทแยงได้ )
ดักลาส เอนเกลบาร์ท ผู้ประดิษฐ์เมาส์ตัวแรกของโลก
Ball Mouse
มีชนิดที่เป็น Ball อยู่ในแนวตั้งและแนวนอน Mouse แบบ Ball การใช้งานต้องเลื่อน Mouse ยังแกนต่างๆบนหน้าจอเพื่อเลือก หรือยกเลิกโปรแกรมที่ทำงานอยู่ ต่อมาได้พัฒนา Mouse ให้มี wheel เพื่อให้สะดวกในการใช้งานกับ Windows ตั้งแต่เวอร์ชัน 95 เป็นต้นมา ซึ่งช่วยในการเลื่อนหน้าต่าง Window ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเลื่อน Mouse เพียงแต่ใช้นิ้วขยับไปที่ wheel ขึ้นลงเท่านั้น
มีชนิดที่เป็น Ball อยู่ในแนวตั้งและแนวนอน Mouse แบบ Ball การใช้งานต้องเลื่อน Mouse ยังแกนต่างๆบนหน้าจอเพื่อเลือก หรือยกเลิกโปรแกรมที่ทำงานอยู่ ต่อมาได้พัฒนา Mouse ให้มี wheel เพื่อให้สะดวกในการใช้งานกับ Windows ตั้งแต่เวอร์ชัน 95 เป็นต้นมา ซึ่งช่วยในการเลื่อนหน้าต่าง Window ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเลื่อน Mouse เพียงแต่ใช้นิ้วขยับไปที่ wheel ขึ้นลงเท่านั้น
Optical mouse
Laser mouse
เมาส์เลเซอร์ เกิดจากการคิดค้นและพัฒนาของ Logitech ซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าแรก ที่ผลิตเมาส์เลเซอร์ออกมา จุดน่าสนใจของเมาส์เลเซอร์อย่างแรกคือ ความแม่นยำ และการตอบสนองความต้องการของเมาส์ขณะทำงานที่ทำได้เร็วกว่าเมาส์แบบใช้แสง เพราะเมาส์แบบใช้แสง ใช้หลอด LED เป็นตัวปล่อยแสง ซึ่งแสงที่ได้จากหลอด LED นั้นเป็นเพียงหลอดไฟหลอดหนึ่งเท่านั้นการเดินทางของแสง ความแม่นยำ ความรวดเร็วในการทำงานย่อมด้อยกว่าเมาส์เลเซอร์ ที่ใช้แสงเลเซอร์เป็นตัวรับ-ส่งข้อมูลแทนแสงจากหลอด LED ข้อดีอีกข้อหนึ่งของเมาส์เลเซอร์ คือ การใช้งานบนพื้นผิวที่มีความมัน หรือไม่เรียบ พื้นไม้ ปกหนังสือ หน้าปกนิตยสาร ได้ค่อนข้างดี สะดวกกว่าเมาส์ออปติคพอสมควร แต่ข้อเสียของเมาส์ตระกูลที่ใช้แสงไม่ว่าจะเป็นเมาส์เลเซอร์ หรือเมาส์ออปติค คือ ไม่สามารถใช้งานบนพื้นผิวที่สามารถสะท้อนแสงได้
Wireless mouse
เมาส์ไร้สายเป็นเมาส์ที่ทำงานด้วยกลไกแบบลูกกลิ้งหรือแบบแสงก็ได้ เพียงแต่ไม่มีสายต่อเท่านั้น เพราะจะใช้การส่งสัญญาณผ่านตัวรับไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์แทนที่จะผ่านทางสายโดยตรง ซึ่งการพัฒนาเมาส์ไร้สายในช่วงแรกจะอาศัยเทคโนโลยีอินฟราเรด แต่ต่อมามีการพัฒนาไปใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ทั้งนี้เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดนั้นมีข้อจำกัดในเรื่องการส่งรับสัญญาณ เครื่องส่งและเครื่องรับจะต้องอยู่ในแนวทิศทางเดียวกันและห้ามมีอุปกรณ์ใดๆ ขวางแนวการรับ-ส่งของคลื่น โดยเด็ดขาด แต่สำหรับเมาส์ที่ใช้เทคโนโลยีความถี่คลื่นวิทยุนี้จะไม่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว ทำให้การใช้งานเมาส์มีความสะดวกมากขึ้นและใช้งานได้ในรัศมีความสะดวกมากขึ้น และใช้งานได้ในรัศมีที่กว้างขึ้น เนื่องจากคลื่นวิทยุสามารถทะลุผ่านอุปกรณ์กีดขวางใดๆ ได้ แต่จะต้องมีการติดตั้งเครื่องรับสัญญาณเพิ่มเติมที่เครื่องคอมพิวเตอร์
ข้อดีของเมาส์ประเภทนี้ คือ สามารถเลื่อนเมาส์ได้ในระยะที่อยู่ห่างจากคอมพิวเตอร์มากขึ้น เนื่องจากไม่มีสายเป็นตัวกำหนดขอบเขตการทำงานอีกต่อไป
เว็บแคม [Web Cam]
เว็บแคมคือกล้องขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ซึ่งเราสามารถใช้เพื่อส่งข้อมูลภาพและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ตได้ สามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นๆ ที่มีเว็บแคมผ่านการดูวิดีโอขณะที่พูดคุยกันได้
สิ่งที่เราสามารถทำได้กับเว็บแคมจะขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่ใช้ควบคู่กัน ตัวอย่างเช่น หากต้องการสนทนาผ่านวิดีโอ
จำเป็นต้องมีโปรแกรมที่สนับสนุนการสนทนาผ่านวิดีโอและการประชุมผ่านวิดีโอ เช่น Windows Live Messenger
โปรแกรมเว็บแคมอื่นๆ จะมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้สามารถใช้เว็บแคมเป็นกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจดูบ้านหรือที่ทำงานเมื่อไม่อยู่ หรือโปรแกรมที่สามารถใช้เพื่อถ่ายทำวิดีโอของเราเองเพื่อโพสต์ออนไลน์ และคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย
การใช้งานเว็บแคมไม่ได้จำกัดอยู่บริเวณบ้านเท่านั้น องค์กรบางแห่งใช้เว็บแคมในการส่งข้อมูลการสตรีมวิดีโอสดเพื่อให้ผู้อื่นสามารถตรวจสอบสภาพการจราจรบนทางหลวงที่วุ่นวาย หรือดูสถานที่สำคัญหรือสถานที่ท่องเที่ยวจากคอมพิวเตอร์ได้ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น